บริษัท แซทเทลไลท์ แอนิเมชั่น จำกัด (มหาชน)
| ประเภท | บริษัทมหา |
|---|---|
| ก่อตั้งเมื่อ | 2524 (44 ปี) |
| สำนักงานใหญ่ | แอเรีย 11, อาณาจักรวิดีโอเกม |
| บุคลากรหลัก | ประธานกรรมการผู้จัดการ: บาโฟแมท |
| ผลิตภัณฑ์ | รายการโทรทัศน์ ภาพยนตร์ ละคร เพลง อนิเมะ สตูดิโอ คอนเสิร์ต รุน เกม และ สถานีโทรทัศน์ |
| รายได้ | 36.7 พันล้าน Evil Stars (★) โดยประมาณ |
บริษัท แซทเทลไลท์ เทเลวิชั่น แอนด์ แอนิเมชั่น จำกัด (มหาชน) (อังเกรียน: Satellite Televison And Animation Public Limited Company) หรือ เป็นที่รู้จักในชื่อย่อว่า ซาตาน (SaTAn) เป็นบริษัทด้านสื่อบันเทิงรายใหญ่ที่สุดใน โลก ซึ่งธุรกิจหลักของซาตานนั้น เป็นการฉายอนิเมะ และเผยแพร่รายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายดาวเทียมของตัวเอง และเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
ประวัติ[แก้ไข]
กว่าจะเป็น SaTAn[แก้ไข]
อันที่จริงแล้ว บรรดาผู้บริหารของบริษัทนี้ เป็นพวกจอมปีศาจที่เดิมเคยเป็นเมพ แต่ถูกขับไล่ลงมาจากสวรรค์ และต้องการจะหาวิธีใหม่ๆ ในการหลอกล่อมนุษย์ให้หลงผิด เลิกศรัทราบร๊ะเจ้า แต่ประชุมกันนานๆ ก็ไม่ได้ข้อสรุปที่ดีซักที ซาตานจึงเสนอให้ผู้บริหารไปพักร้อนกัน โดยสถานที่ไปคือ แอเรีย 11 โดยขณะที่อยู่ที่นั่น พวกเข้าได้พวกกับสิ่งแปลกใหม่ ที่ไม่เคยเห็นทั้งบนสวรรค์และในนรกมาก่อน มันถูกเรียกว่า "อนิเมะ" โดยคนท้องถิ่น
อนิเมะ และ จุดเริ่มต้นของ SatAn[แก้ไข]
อนิเมะ เป็นสินค้าพื้นบ้านของผู้ที่อาศัยใน แอเรีย 11 ซึ่งเป็นที่นิยมกันทั่วไปของประชาชนที่นั่น ในที่สุด หนึ่งในผู้บริหารก็เสนอว่า น่าจะตั้งบริษัททางด้านอนิเมะ เพื่อเป็นการมอมเมามนุษย์ให้หลงผิด ติดอนิเมะทั้งวัน และจะได้เสื่อมศรัทราในบร๊ะเจ้า ซึ่งทุกคนก็เห็นว่าเป็นไอเดียที่เวิร์กมาก จึงได้ตั้งบริษัท แซทเทลไลท์ แอนิเมชั่น ขึ้นมา เพื่อผลิต และถ่ายทอดอนิเมะผ่านทางเคเบิลทีวี และเมื่อเริ่มเผยเแพร่อนิเมะออกไป ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปี ก็สามารถทำให้ผู้คนติดอนิเมะกันงอมแงม เกิดเป็นพวกโอตาคุ และ ซันนี่ ขึ้น นอกจากนั้น ซาตานยังได้สาวกเอกที่จงรักภักดีมา 4 คน อีกด้วย
และเมื่อครบรอบการก่อตั้งบริษัทซาตานได้หนึ่งปี บรรดาสาวกเอกทั้งสี่คนนั้น ก็ออกไปตั้งสตูอิโอผลิตอนิเมะ เพื่อเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของซาตาน โดยหัวหน้าของเล่าสาวกเอกเหล่านั้น ยังได้รับคำแนะนำจากซาตานว่า หากจะทำอนิเมะใ้ห้คนหลงผิดและหมดศรัทธาในบร๊ะเจ้าเยอะๆ ให้ทำตามดังนี้:
- ทำอนิเมะที่มีแนวตามกระแสตลาดในขณะนั้น เพื่อดึงดูดผู้ชมให้มากไว้ก่อน เช่น แนว Mecha พวกหุ่นยนต์ตัวใหญ่ๆ แอ็คชั่นดุเดือด กำลังมาแรง ก็จงทำแนวๆนั้น
- เรื่องนั้น ควรจะมีตัวละคร ที่จะทำให้ผู้ชมคลั่งใคล้หลงใหลได้ อย่างน้อยสุด 2 ตัว
- เมื่อดำเนินเรื่องมาเกินครึ่งแล้ว ช่วงหลังๆ ให้เปลี่ยนแนวเรื่อง จากหน้ามือเป็นหลังตีนโดยทันที ทำให้ที่ผู้ชมที่ติดตามอยู่จะต้องมึนงงไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง แถมยังหมดศรัทราในบร๊ะเจ้า เพราะโดนตัดจบห้วน (ดังที่ปัจจุบันเรียกว่า ปาหมอน)
- เมื่อผู้ที่ชมจบแล้ว ไม่เข้าในในเนื้อเรื่องตอนท้ายๆ และตอนจบ ก็จะพากันแสดงความคิดเห็นและถกเถียงกับผู้ชมอื่นๆ ทำให้เรื่องนี้เป็น Talk of the Town
- เมื่อเรื่องนั้นจบไปได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว ก็ให้ทำตอนจบขึ้นมาใหม่ เพื่อให้ผู้ชมที่หมดศรัทธานั้น หันมาศรัทธาซาตานแทนบร๊ะเจ้า และควรออกเป็นหนังโรงและดีวีดี จะได้มีกำไรเข้าบริษัทมากๆ ด้วย
- เมื่อผู้ชมหันมาศรัทธาเรื่องนี้และซาตานแล้ว ก็ให้ทำวัตถุมงคล ให้ผู้ชมเช่าไปกราบไหว้บูชาอีก ทำให้ผู้คนเหล่านั้น เลิกนับถือบร๊ะเจ้าโดยสมบูรณ์ หันมากราบไหว้ฟิกเกอร์แทน
- หากผู้คนเริ่มได้สติกลับคืนมา ให้ผลิตภาครีเมค ขึ้นมา โดยอาจทำเป็นหนังก็ได้ จะได้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น
หัวหน้าของเหล่าสาวกเอกของซาตานนั้นซาบซึ้งในคำแนะนำของซาตานมาก และได้ไปตั้งสตูดิโอผลิตอนิเมะขึ้น
หลังจากที่ก่อตั้งสตูดิโอได้ 13 ปี เขาก็ได้ผลิตอนิเมะเรื่องหนึ่งขึ้นมา ตามคำแนะนำของซาตาน โดยลงมือกำกับเอง และเรื่องนั้นก็ดังเป็นพลุแตกทันที มีรายได้เข้าสตูดิโอ และ บ.ซาตาน ผู้แพร่ภาพ อย่างถล่มทลาย
ชื่อของผู้กำกับ และสตูดิโอที่สร้างอนิเมะเรื่องนี้ เป็นที่รู้จักกันไปทั่วจักรวาล ผู้กำกับ ซันนี่ แห่ง เฮลเกตสตูดิโอ (Hellgate Studio)
รายการโทรทัศน์ กับ การพัฒนาของซาตาน[แก้ไข]
ในปี 2543 ซาตานได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ เนื่องจากวัยรุ่นสนใจอะนิเมะมากว่าวัยอื่นๆ ทำให้ไม่มีรายได้ในด้านอื่นๆ แต่ซาตานไม้ยอมแพ้ จึงสร้างรายการโทรทัศน์ออกมาเป็นรายการแรกว่า ฆ่าโชว์ เป็นรายการที่เกี่ยวกับการฆ่า หลังจากรายการนี้ออกอากาศ ก็มีผู้คนสนใจเป็นจำนวนมาก ต่อมาซาตานได้ทำรายการต่างๆ ไปเรื่อยๆ จนในปี 2550 บริษัท แซทเทลไลท์ แอนิเมชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ผลิตช่องรายการโทรทัศน์ที่มีชื่อว่า ซาตานทีวี แห่งแรกในโลก ทำให้รายการของบริษัทซาตานทั้งหมดไปอยู่ที่ซาตานทีวีแทนจนถึงปัจจุบัน
| ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มเติมข้อมูลในส่วนนี้ได้ |
โลโก้[แก้ไข]
โลโก้ในยุคแรกๆ
โลโก้ใหม่ตามคำสั่งของซาตาน
เทคโนโลยี LUCIFER™[แก้ไข]
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว หลังจากจักรวาลถูกสร้างขึ้นโดยหารูฮิ ทางฝ่าย R&D ของซาตาน ได้ออกแบบระบบเครือข่าย ในการส่งผ่านข้อมูลภาพและเสียง ที่เรียกว่า ลูซิเฟอร์ (LUCIFER; Lossless Ultra-Compact Information TransFER) ซึ่งหมายถึง ระบบการส่งผ่านและบีบอัดข้อมูลประสิทธิภาพสูงและไม่มีการสูญหายของข้อมูล ซึ่งเทคโนโลยีนี้ทำให้การส่งข้อมูลเร็วขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เพราะข้อมูลถูกบีบอัดด้วยอัลกอริทึมพิเศษ จึงมีขนาดข้อมูลที่เล็กมากๆ โดยที่คุณภาพไม่ได้ลดลงไปเลย และมีประโยชน์มากสำหรับการดูดรับชมอนิเมะทางอินเตอร์เน็ต
ขณะนี้มีการฟ้องร้องคดี เนื่องจากชื่อ ลูซิเฟอร์ เป็นลิขสิทธิ์ และเครื่องหมายทางการค้าของ บ.ซาตาน แต่ได้มีศิลปินกลุ่มหนึ่ง นำชื่อ ลูซิเฟอร์ ไปตั้งเป็นชื่อวงดนตรีของตน ทาง บ.ซาตาน จึงต้องทำการยื่นเรื่องต่อศาล ให้สั่งฟ้องกลุ่มศิลปินเหล่านั้น โดยขณะนี้ เรื่องยังอยู่ในชั้นศาล
ตรามารแห่งอนิเมะ[แก้ไข]
ในอดีตเคยใช้สำหรับทำพิธีบูชายัญ เพื่อเรียกบรรดาภูติผีปีศาจและจอมมารต่างๆ ออกมาช่วยคิดพล็อตและปั่นงาน โดยเรื่องที่ได้รับการช่วยเหลือจากบรรดาปีศาจนี้ จะกลายเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยม มีคนติดกันงอมแงม
แต่เมื่อ ปี พ.ศ. 2547 ตรามารแห่งอนิเมะ ได้ถูกลอบขโมยไป ซึ่งทราบเบาะแสคร่าวๆ เพียงว่า ผู้ที่ขโมยไปเป็นนักเขียนการ์ตูนแก็ก 4 ช่อง ลงนิตยสาร และคาดว่ามันจะถูกใช้เรียกปีศาจออกมาช่วยเขียนพล็อตเรื่อง ให้กับผู้ที่ขโมยไป อย่างแน่นอน
ลักษณะของตรามารที่ถูกขโมยไปนั้น ตรงกลางจะรูปเป็นดาว 5 แฉก แบบตราของจอมมาร แต่เป็นสีชมพู และโดยรอบลงอักขระโบราณ เขียนว่า อนิเมะ
โดยตรามารนี้ มีชื่อเรียกอีกชื่อในบรรดาพนักงานบริษัทว่า "ดาวแห่งความโชคร้าย"