จัดการการตั้งค่าตำแหน่งของอุปกรณ์ Android

เมื่อเปิดตำแหน่งของอุปกรณ์ในการตั้งค่า คุณจะสามารถใช้บริการตามตำแหน่ง เช่น ผลการค้นหาในพื้นที่ การคาดการณ์สำหรับการเดินทาง และร้านอาหารใกล้เคียง โดยอิงตามตำแหน่งของอุปกรณ์

สำคัญ

  • ขั้นตอนเหล่านี้จะมีบางขั้นตอนที่ใช้ได้เฉพาะกับ Android 12 ขึ้นไปเท่านั้น ดูวิธีตรวจสอบเวอร์ชัน Android
  • คุณจะต้องแตะหน้าจอของอุปกรณ์ในบางขั้นตอน
  • ขั้นตอนเหล่านี้ใช้กับ Fitbit Ace LTE ได้ด้วย
  • หากคุณมีแท็บเล็ตหรืออุปกรณ์ที่มีผู้ใช้มากกว่า 1 คน ผู้ใช้แต่ละคนจะตั้งค่าการเข้าถึงตำแหน่งที่ต่างกันได้

เปิดหรือปิดตำแหน่งของอุปกรณ์

  1. เปิดการตั้งค่า การตั้งค่า
  2. แตะตำแหน่ง ตำแหน่ง
  3. เปิดหรือปิดใช้ตำแหน่ง

เคล็ดลับ: หากต้องการเพิ่มปุ่มเปิด/ปิด "ตำแหน่ง" ลงในเมนูการตั้งค่าด่วน ให้ทำดังนี้

  1. ปัดลงจากด้านบนของหน้าจอ 2 ครั้ง
  2. แตะแก้ไข แก้ไข
  3. ลากตำแหน่ง ตำแหน่ง ไปไว้ในการตั้งค่าด่วน
เมื่อตำแหน่งเปิดอยู่
เมื่อตำแหน่งปิดอยู่

ทำความเข้าใจการตั้งค่าตำแหน่งที่มีในอุปกรณ์ของคุณ

สำคัญ: เมื่อการตั้งค่าตำแหน่งของอุปกรณ์ปิดอยู่ แอปและบริการจะไม่ได้รับตำแหน่งของอุปกรณ์ แต่คุณจะยังได้รับผลการค้นหาในพื้นที่และโฆษณาที่อิงตามที่อยู่ IP

Google มีบริการตามตำแหน่ง ซึ่งประกอบด้วยรายการต่อไปนี้

  • ความแม่นยำของตำแหน่งสำหรับอุปกรณ์ (หรือที่เรียกอีกอย่างว่า "บริการตำแหน่งของ Google"): หากต้องการตำแหน่งของอุปกรณ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น learn how to manage Location Accuracy.
  • Emergency Location Service for your Android device: Learn how to manage Android Emergency Location Service.
  • การแจ้งเตือนแผ่นดินไหวสำหรับอุปกรณ์ Android: หากต้องการรับข้อมูลอัปเดตบนอุปกรณ์เกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหวในบริเวณใกล้เคียง learn how to manage Earthquake alerts.
  • ใช้ตำแหน่งสำหรับเขตเวลาในอุปกรณ์: หากต้องการให้อัปเดตเขตเวลาตามตำแหน่ง learn how to manage location for time zone.
  • ไทม์ไลน์ของบัญชี Google: ไทม์ไลน์คือการตั้งค่าบัญชี Google ที่ช่วยให้คุณย้อนเวลาไปดูและระลึกถึงสถานที่ต่างๆ ที่เคยไปได้ ด้วยการบันทึกการไปเยี่ยมชมและเส้นทางโดยอัตโนมัติลงในแผนที่บนอุปกรณ์แต่ละเครื่องที่คุณลงชื่อเข้าใช้ไว้
  • การแชร์ตำแหน่งของ Google Maps: หากต้องการให้ผู้อื่นทราบว่าอุปกรณ์ของคุณอยู่ที่ไหน โปรดดูวิธีแชร์ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ผ่าน Google Maps
  • ตำแหน่งใน Search: หากต้องการรับผลการค้นหาที่มีประโยชน์ยิ่งขึ้นเมื่อค้นหาใน Google โปรดดูวิธีจัดการสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งสำหรับเว็บไซต์และแอป
  • การสแกนหา Wi-Fi และการสแกนหาบลูทูธ: หากต้องการช่วยให้แอปได้รับข้อมูลตำแหน่งที่ดียิ่งขึ้น learn how to scan for network or bluetooth devices.
  • สิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง: หากต้องการอนุญาตให้อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงเชื่อมต่อ learn how to turn on the Nearby devices permission.
เคล็ดลับ: แอปต่างๆ มีการตั้งค่าสิทธิ์ของตนเอง 

ช่วยให้อุปกรณ์ได้รับตำแหน่งที่แม่นยำยิ่งขึ้น (ความแม่นยำของตำแหน่ง หรือที่เรียกว่า "บริการตำแหน่งของ Google")

สำคัญ: อุปกรณ์บางเครื่องไม่มีสัญญาณไร้สาย, GPS หรือข้อมูลเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ ความแม่นยำของตำแหน่งจะใช้สัญญาณที่มีอยู่เพื่อคาดการณ์ตำแหน่งโดยประมาณ

อุปกรณ์ Android ที่มีบริการ Google Play จะมีบริการความแม่นยำของตำแหน่งเพื่อปรับปรุงตำแหน่งของอุปกรณ์ โดยจะใช้ข้อมูลจากสัญญาณไร้สาย เช่น จุดเข้าใช้งาน Wi-Fi, เสาเครือข่ายมือถือ และ GPS ตลอดจนข้อมูลเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ เช่น ตัวตรวจวัดความเร่งและเครื่องวัดการหมุน เพื่อให้อุปกรณ์สามารถประมาณตำแหน่งของอุปกรณ์ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ GPS อาจไม่พร้อมใช้งานหรือสัญญาณถูกบดบัง เช่น ภายในอาคารหรือใกล้อาคารขนาดใหญ่ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ Google Play

เมื่อความแม่นยำของตำแหน่งเปิดอยู่ Google จะเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเซ็นเซอร์และสัญญาณไร้สายใกล้คุณเป็นระยะเพื่อร่วมให้ข้อมูลตำแหน่งของสัญญาณไร้สายจากมวลชน โดยใช้ตัวระบุแบบหมุนเวียนชั่วคราวที่กำหนดให้แบบสุ่มซึ่งไม่เชื่อมโยงกับบุคคลหรือบัญชีใดบัญชีหนึ่ง ตัวระบุเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติเป็นประจำ มาตรการเหล่านี้จะป้องกันไม่ให้มีการระบุตัวตนคุณจากข้อมูลที่เก็บรวบรวม ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลความแม่นยำของตำแหน่ง

เคล็ดลับ: บริการความแม่นยำของตำแหน่งมีให้ใช้งานบน Fitbit Ace LTE ด้วยเช่นกัน

เปิดหรือปิดความแม่นยำของตำแหน่งของอุปกรณ์

Android 12 ขึ้นไปและ Fitbit Ace LTE

  1. เปิดการตั้งค่า การตั้งค่า
  2. แตะตำแหน่ง ตำแหน่ง จากนั้น บริการตำแหน่ง จากนั้น ความแม่นยำของตำแหน่ง
  3. เปิดหรือปิดปรับปรุงความแม่นยำของตำแหน่ง

Android 11 และต่ำกว่า

  1. เปิดการตั้งค่า การตั้งค่า
  2. แตะตำแหน่ง ตำแหน่ง จากนั้น ขั้นสูง จากนั้น ความแม่นยำของตำแหน่ง
  3. เปิดหรือปิดปรับปรุงความแม่นยำของตำแหน่ง
เมื่อความแม่นยำของตำแหน่งเปิดอยู่

เมื่อความแม่นยำของตำแหน่งเปิดอยู่ อุปกรณ์จะใช้แหล่งที่มาต่อไปนี้เพื่อรับตำแหน่งที่แม่นยำที่สุด ซึ่งอาจรวมถึงระดับความสูงหรือชั้น

  • สัญญาณไร้สาย (เช่น GPS, Wi-Fi หรือเครือข่ายมือถือ)
  • เซ็นเซอร์ (เช่น ตัวตรวจวัดความเร่ง บารอมิเตอร์ หรือเครื่องวัดการหมุน)

แหล่งที่มานี้มีความสำคัญอย่างยิ่งหากคุณใช้อุปกรณ์ภายในอาคารหรือเมื่อดาวเทียม GPS ถูกบังสัญญาณ เนื่องจากในสถานการณ์เหล่านั้น อุปกรณ์จำเป็นต้องใช้สัญญาณเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถประมาณตำแหน่งได้  แอปและบริการที่มีสิทธิ์ที่เหมาะสมจะใช้ตำแหน่งนี้เพื่อให้บริการฟีเจอร์ที่อิงตามตำแหน่งแก่คุณได้

เมื่อความแม่นยำของตำแหน่งปิดอยู่

เมื่อความแม่นยำของตำแหน่งปิดอยู่ ระบบจะใช้เฉพาะ GPS และเซ็นเซอร์ของอุปกรณ์ เช่น ตัวตรวจวัดความเร่ง บารอมิเตอร์ และเครื่องวัดการหมุน ในการระบุตำแหน่งของอุปกรณ์ ซึ่งอาจส่งผลต่อความพร้อมใช้งานและความแม่นยำของตำแหน่งสำหรับแอปและบริการต่างๆ เช่น Google Maps และการหาอุปกรณ์ที่สูญหาย

เมื่อความแม่นยำของตำแหน่งปิดอยู่ บริการความแม่นยำของตำแหน่งจะไม่เก็บรวบรวมสัญญาณไร้สายและข้อมูลเซ็นเซอร์ อย่างไรก็ตาม บริการตำแหน่งกรณีฉุกเฉินหรือผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือจะยังส่งตำแหน่งของอุปกรณ์ที่ได้รับการปรับปรุงโดยการตั้งค่าความแม่นยำของตำแหน่งไปยังหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินได้โดยอัตโนมัติเมื่อคุณโทรหรือส่งข้อความหาหมายเลขฉุกเฉิน

เคล็ดลับ: Google จะไม่เก็บรวบรวมข้อมูลตำแหน่งหรือความแม่นยำของตำแหน่งในสถานการณ์ดังกล่าว ดูข้อมูลเกี่ยวกับบริการตำแหน่งกรณีฉุกเฉิน

สำคัญ:

  • สำหรับ Android 12 ขึ้นไป คุณจะจัดการสิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งที่แน่นอนของแต่ละแอปแยกกันได้ การให้สิทธิ์ดังกล่าวแตกต่างจากความแม่นยำของตำแหน่ง ซึ่งเป็นการตั้งค่าตำแหน่งสำหรับอุปกรณ์ที่อนุญาตให้ใช้แหล่งที่มาเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ตำแหน่งที่แม่นยำที่สุด เมื่อความแม่นยำของตำแหน่งเปิดอยู่ คุณจะให้แค่สิทธิ์เข้าถึงตำแหน่งโดยประมาณแก่แอปได้ หากไม่ต้องการให้แอปเข้าถึงตำแหน่งที่แน่นอนของอุปกรณ์ หากความแม่นยำของตำแหน่งปิดอยู่ แอปอาจไม่ได้รับตำแหน่งที่แน่นอนของอุปกรณ์ Learn how to choose which apps use your Android device’s location.
  • อุปกรณ์บางรุ่น เช่น แท็บเล็ตที่ใช้ Wi-Fi เท่านั้น ไม่มี GPS หรือบริการตำแหน่งกรณีฉุกเฉิน

ตั้งค่าการสแกนหา Wi-Fi และบลูทูธ

หากต้องการช่วยให้แอปได้รับข้อมูลตำแหน่งที่ดียิ่งขึ้น คุณอาจให้อุปกรณ์สแกนหาจุดเข้าใช้งาน Wi-Fi หรืออุปกรณ์บลูทูธที่อยู่ใกล้เคียง

Android 12 ขึ้นไป

  1. เปิดการตั้งค่า การตั้งค่า
  2. แตะตำแหน่ง ตำแหน่ง จากนั้น บริการตำแหน่ง
  3. เปิดหรือปิดการสแกนหา Wi-Fi หรือการสแกนหาบลูทูธ

Android 11 และต่ำกว่า

  1. เปิดการตั้งค่า การตั้งค่า
  2. แตะตำแหน่ง ตำแหน่ง จากนั้น การสแกนหา Wi-Fi หรือการสแกนหาบลูทูธ 
  3. เปิดหรือปิดการสแกนหา Wi-Fi หรือการสแกนหาบลูทูธ

หากคุณใช้ Android เวอร์ชันเก่า

เลือกการตั้งค่าตำแหน่ง (Android 9.0)

วิธีเปลี่ยนการตั้งค่าตำแหน่ง 

  1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์
  2. แตะความปลอดภัยและตำแหน่ง จากนั้น ตำแหน่ง
    • หากมีโปรไฟล์งาน ให้แตะขั้นสูง

แล้วเลือกตัวเลือกดังนี้

  • เปิดหรือปิดตำแหน่ง: แตะตำแหน่ง
  • สแกนหาเครือข่ายใกล้เคียง: แตะขั้นสูง จากนั้นการสแกน เปิดหรือปิดการสแกนหา Wi-Fi หรือการสแกนหาบลูทูธ
  • เปิดหรือปิดบริการตำแหน่งกรณีฉุกเฉิน: แตะขั้นสูง จากนั้น บริการตำแหน่งกรณีฉุกเฉินของ Google เปิดหรือปิดบริการตำแหน่งกรณีฉุกเฉิน 
เลือกโหมดตำแหน่ง (Android 4.4-8.1)
  1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์
  2. แตะความปลอดภัยและตำแหน่ง จากนั้น ตำแหน่ง
    • หากไม่เห็น "ความปลอดภัยและตำแหน่ง" ให้แตะตำแหน่ง
  3. แตะโหมด
  4. เลือกโหมดใดโหมดหนึ่งต่อไปนี้
    • ความแม่นยำสูง: ใช้ GPS, Wi-Fi, เครือข่ายมือถือ และเซ็นเซอร์เพื่อรับตำแหน่งความแม่นยำสูงสุด โดยจะใช้บริการตำแหน่งของ Google ช่วยประมาณตำแหน่งของอุปกรณ์อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
    • ประหยัดแบตเตอรี่: ใช้แหล่งที่มาที่ใช้แบตเตอรี่น้อย เช่น Wi-Fi และเครือข่ายมือถือ โดยจะใช้บริการตำแหน่งของ Google ช่วยประมาณตำแหน่งของอุปกรณ์อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น
    • อุปกรณ์เท่านั้น: ใช้ GPS และเซ็นเซอร์ โดยจะไม่ใช้บริการตำแหน่งของ Google เพื่อปรับปรุงความแม่นยำของตำแหน่ง ซึ่งอาจทำให้ประมาณตำแหน่งของอุปกรณ์ได้ช้ากว่าและใช้แบตเตอรี่มากกว่า
เลือกการเข้าถึงตำแหน่ง (Android 4.1-4.3)

คุณควบคุมได้ว่าจะให้อุปกรณ์ใช้ข้อมูลตำแหน่งประเภทใดได้บ้าง

  1. เปิดแอปการตั้งค่าในอุปกรณ์
  2. ในส่วน "ส่วนตัว" ให้แตะการเข้าถึงตำแหน่ง
  3. ที่ด้านบนของหน้าจอ ให้เปิดหรือปิดการเข้าถึงตำแหน่งของฉัน
    • เมื่อการเข้าถึงตำแหน่งเปิดอยู่ ให้เลือกตัวเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้หรือทั้ง 2 อย่าง
      • ดาวเทียม GPS: ให้อุปกรณ์ประมาณตำแหน่งของอุปกรณ์จากสัญญาณดาวเทียม ในลักษณะเดียวกับอุปกรณ์ GPS
      • ตำแหน่งตาม Wi-Fi และเครือข่ายมือถือ: ให้อุปกรณ์ใช้บริการตำแหน่งของ Google เพื่อช่วยให้ประมาณตำแหน่งได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยใช้หรือไม่ใช้ระบบ GPS
    • เมื่อการเข้าถึงตำแหน่งปิดอยู่:
      อุปกรณ์จะค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนหรือแชร์ตำแหน่งกับแอปต่างๆ ไม่ได้
ค้นหา
ล้างการค้นหา
ปิดการค้นหา
เมนูหลัก
1322183471820067324
true
ค้นหาศูนย์ช่วยเหลือ
false
true
true
true
true
true
98464
false
false
false
false