หน้านี้ได้รับการแปลโดย Cloud Translation API

การอ้างอิง API

ส่วนขยายส่วนใหญ่ต้องมีสิทธิ์เข้าถึง Chrome Extensions API อย่างน้อย 1 รายการจึงจะทำงานได้ การอ้างอิง API นี้อธิบาย API ที่พร้อมใช้งาน สำหรับใช้ในส่วนขยายและแสดงตัวอย่าง Use Case

ฟีเจอร์ทั่วไปของ Extensions API

API ส่วนขยายประกอบด้วยเนมสเปซที่มีเมธอดและพร็อพเพอร์ตี้สำหรับการทำงานของส่วนขยาย และโดยปกติแล้วจะมีฟิลด์ Manifest สำหรับไฟล์ manifest.json ด้วย เช่น chrome.actionเนมสเปซต้องมีออบเจ็กต์ "action" ในไฟล์ Manifest นอกจากนี้ API หลายรายการยังต้องมีสิทธิ์ในไฟล์ Manifest ด้วย

เมธอดใน API ของส่วนขยายเป็นแบบอะซิงโครนัส เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น เมธอดแบบอะซิงโครนัสจะแสดงผลทันทีโดยไม่ต้องรอ ให้การดำเนินการที่เรียกเมธอดนั้นเสร็จสิ้น ใช้ Promise เพื่อรับผลลัพธ์ของเมธอดแบบอะซิงโครนัสเหล่านี้

API ของส่วนขยาย Chrome

accessibilityFeatures: ใช้ chrome.accessibilityFeatures API เพื่อจัดการฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษของ Chrome API นี้ใช้ต้นแบบ ChromeSetting ของ API ประเภทสำหรับการรับและการตั้งค่าฟีเจอร์การช่วยเหลือพิเศษแต่ละรายการ ส่วนขยายต้องขอสิทธิ์ accessibilityFeatures.read จึงจะรับสถานะฟีเจอร์ได้ หากต้องการแก้ไขสถานะฟีเจอร์ ส่วนขยายต้องมีสิทธิ์ accessibilityFeatures.modify โปรดทราบว่า accessibilityFeatures.modify ไม่ได้หมายถึงสิทธิ์ accessibilityFeatures.read
action: Chrome 88 ขึ้นไป MV3 ขึ้นไป

ใช้ chrome.action API เพื่อควบคุมไอคอนของส่วนขยายในแถบเครื่องมือของ Google Chrome
การปลุก: ใช้ chrome.alarms API เพื่อตั้งเวลาให้โค้ดทำงานเป็นระยะๆ หรือในเวลาที่ระบุในอนาคต
เสียง: Chrome 59 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น

เรามี chrome.audio API เพื่อให้ผู้ใช้รับข้อมูลและควบคุมอุปกรณ์เสียงที่เชื่อมต่อกับระบบได้ ปัจจุบัน API นี้ใช้ได้เฉพาะในโหมดคีออสก์สำหรับ ChromeOS เท่านั้น
บุ๊กมาร์ก: ใช้ chrome.bookmarks API เพื่อสร้าง จัดระเบียบ และจัดการบุ๊กมาร์ก ดูหน้าการลบล้างด้วย ซึ่งคุณใช้สร้างหน้าการจัดการบุ๊กมาร์กที่กำหนดเองได้
browsingData: ใช้ chrome.browsingData API เพื่อนำข้อมูลการท่องเว็บออกจากโปรไฟล์ภายในเครื่องของผู้ใช้
certificateProvider: Chrome 46 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น

ใช้ API นี้เพื่อแสดงใบรับรองต่อแพลตฟอร์มซึ่งใช้ใบรับรองเหล่านี้สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ TLS ได้
คำสั่ง: ใช้ Commands API เพื่อเพิ่มแป้นพิมพ์ลัดที่ทริกเกอร์การดำเนินการในส่วนขยาย เช่น การดำเนินการเพื่อเปิดส่วนขยายเบราว์เซอร์หรือส่งคำสั่งไปยังส่วนขยาย
contentSettings: ใช้ chrome.contentSettings API เพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าที่ควบคุมว่าเว็บไซต์จะสามารถใช้ฟีเจอร์อย่างคุกกี้, JavaScript และปลั๊กอินได้หรือไม่ โดยทั่วไปแล้ว การตั้งค่าเนื้อหาจะช่วยให้คุณปรับแต่งลักษณะการทำงานของ Chrome ในแต่ละเว็บไซต์แทนที่จะเป็นการตั้งค่าทั่วโลกได้
contextMenus: ใช้ chrome.contextMenus API เพื่อเพิ่มรายการลงในเมนูบริบทของ Google Chrome คุณเลือกประเภทออบเจ็กต์ที่ส่วนเสริมเมนูตามบริบทจะใช้ได้ เช่น รูปภาพ ไฮเปอร์ลิงก์ และหน้าเว็บ
คุกกี้: ใช้ chrome.cookies API เพื่อค้นหาและแก้ไขคุกกี้ รวมถึงรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
ดีบักเกอร์: chrome.debugger API ทำหน้าที่เป็นช่องทางการรับส่งข้อมูลสำรองสำหรับโปรโตคอลการแก้ไขข้อบกพร่องจากระยะไกลของ Chrome ใช้ chrome.debugger เพื่อแนบกับแท็บอย่างน้อย 1 แท็บเพื่อตรวจสอบการโต้ตอบของเครือข่าย แก้ข้อบกพร่องของ JavaScript เปลี่ยน DOM และ CSS และอื่นๆ ใช้พร็อพเพอร์ตี้ Debuggee tabId เพื่อกำหนดเป้าหมายแท็บด้วย sendCommand และกำหนดเส้นทางเหตุการณ์ตาม tabId จากการเรียกกลับ onEvent
declarativeContent: ใช้ chrome.declarativeContent API เพื่อดำเนินการตามเนื้อหาของหน้าเว็บโดยไม่ต้องขอสิทธิ์ในการอ่านเนื้อหาของหน้าเว็บ
declarativeNetRequest: Chrome 84 ขึ้นไป

chrome.declarativeNetRequest API ใช้เพื่อบล็อกหรือแก้ไขคำขอเครือข่ายโดยการระบุกฎแบบประกาศ ซึ่งช่วยให้ส่วนขยายแก้ไขคำขอเครือข่ายได้โดยไม่ต้องสกัดกั้นและดูเนื้อหาของคำขอ จึงช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว
desktopCapture: Desktop Capture API จะจับภาพเนื้อหาของหน้าจอ หน้าต่างแต่ละหน้า หรือแท็บแต่ละแท็บ
devtools.inspectedWindow: ใช้ chrome.devtools.inspectedWindow API เพื่อโต้ตอบกับหน้าต่างที่ตรวจสอบ: รับรหัสแท็บสำหรับหน้าที่ตรวจสอบ ประเมินโค้ดในบริบทของหน้าต่างที่ตรวจสอบ โหลดหน้าเว็บซ้ำ หรือรับรายการทรัพยากรภายในหน้าเว็บ
devtools.network: ใช้ chrome.devtools.network API เพื่อดึงข้อมูลเกี่ยวกับคำขอเครือข่ายที่เครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์แสดงในแผงเครือข่าย
devtools.panels: ใช้ chrome.devtools.panels API เพื่อผสานรวมส่วนขยายเข้ากับ UI ของหน้าต่างเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ โดยสร้างแผงของคุณเอง เข้าถึงแผงที่มีอยู่ และเพิ่มแถบด้านข้าง
devtools.performance: Chrome 129 ขึ้นไป

ใช้ chrome.devtools.performance API เพื่อฟังการอัปเดตสถานะการบันทึกในแผงประสิทธิภาพในเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บ
devtools.recorder: Chrome 105 ขึ้นไป

ใช้ chrome.devtools.recorder API เพื่อปรับแต่งแผงเครื่องบันทึกในเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาเว็บ
dns: ช่องทางเวอร์ชันที่กำลังพัฒนา

ใช้ chrome.dns API สำหรับการแก้ปัญหา DNS
documentScan: Chrome 44 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น

ใช้ chrome.documentScan API เพื่อค้นหาและดึงรูปภาพจากเครื่องสแกนเอกสารที่แนบมา
dom: Chrome 88 ขึ้นไป

ใช้ chrome.dom API เพื่อเข้าถึง DOM API พิเศษสำหรับส่วนขยาย
การดาวน์โหลด: ใช้ chrome.downloads API เพื่อเริ่มต้น ตรวจสอบ จัดการ และค้นหาการดาวน์โหลดโดยใช้โปรแกรม
enterprise.deviceAttributes: Chrome 46 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น ต้องใช้นโยบาย

ใช้ chrome.enterprise.deviceAttributes API เพื่ออ่านแอตทริบิวต์ของอุปกรณ์ หมายเหตุ: API นี้ใช้ได้กับส่วนขยายที่นโยบายองค์กรบังคับให้ติดตั้งเท่านั้น
enterprise.hardwarePlatform: Chrome 71 ขึ้นไป ต้องใช้นโยบาย

ใช้ chrome.enterprise.hardwarePlatform API เพื่อรับผู้ผลิตและรุ่นของแพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ที่เบราว์เซอร์ทํางานอยู่ หมายเหตุ: API นี้ใช้ได้กับส่วนขยายที่ติดตั้งโดยนโยบายองค์กรเท่านั้น
enterprise.login: Chrome 139 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น ต้องใช้นโยบาย

ใช้ chrome.enterprise.login API เพื่อออกจากเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการ หมายเหตุ: API นี้ใช้ได้กับส่วนขยายที่ติดตั้งโดยนโยบายองค์กรในเซสชันผู้เยี่ยมชมที่มีการจัดการของ ChromeOS เท่านั้น
enterprise.networkingAttributes: Chrome 85 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น ต้องใช้นโยบาย

ใช้ chrome.enterprise.networkingAttributes API เพื่ออ่านข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายปัจจุบัน หมายเหตุ: API นี้ใช้ได้กับส่วนขยายที่นโยบายองค์กรบังคับให้ติดตั้งเท่านั้น
enterprise.platformKeys: ChromeOS เท่านั้น ต้องใช้นโยบาย

ใช้ chrome.enterprise.platformKeys API เพื่อสร้างคีย์และติดตั้งใบรับรองสำหรับคีย์เหล่านี้ แพลตฟอร์มจะจัดการใบรับรองและสามารถใช้สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์ TLS, การเข้าถึงเครือข่าย หรือส่วนขยายอื่นๆ ผ่าน chrome.platformKeys
กิจกรรม: เนมสเปซ chrome.events มีประเภททั่วไปที่ API ใช้ในการส่งเหตุการณ์เพื่อแจ้งให้คุณทราบเมื่อมีสิ่งน่าสนใจเกิดขึ้น
ส่วนขยาย: chrome.extension API มีเครื่องมือที่หน้าส่วนขยายใดก็ได้ใช้ได้ ซึ่งรวมถึงการรองรับการแลกเปลี่ยนข้อความระหว่างส่วนขยายกับสคริปต์เนื้อหาของส่วนขยาย หรือระหว่างส่วนขยายด้วยกัน ตามที่อธิบายไว้โดยละเอียดในการส่งผ่านข้อความ
extensionTypes: chrome.extensionTypes API มีการประกาศประเภทสำหรับส่วนขยาย Chrome
fileBrowserHandler: ChromeOS เท่านั้น เบื้องหน้าเท่านั้น

ใช้ chrome.fileBrowserHandler API เพื่อขยายโปรแกรมสำรวจไฟล์ของ ChromeOS เช่น คุณสามารถใช้ API นี้เพื่ออนุญาตให้ผู้ใช้อัปโหลดไฟล์ไปยังเว็บไซต์ของคุณได้
fileSystemProvider: ChromeOS เท่านั้น

ใช้ chrome.fileSystemProvider API เพื่อสร้างระบบไฟล์ที่เข้าถึงได้จากตัวจัดการไฟล์ใน ChromeOS
fontSettings: ใช้ chrome.fontSettings API เพื่อจัดการการตั้งค่าแบบอักษรของ Chrome
gcm: ใช้ chrome.gcm เพื่อให้แอปและส่วนขยายส่งและรับข้อความผ่าน Firebase Cloud Messaging (FCM) ได้
ประวัติ: ใช้ chrome.history API เพื่อโต้ตอบกับบันทึกหน้าเว็บที่เข้าชมของเบราว์เซอร์ คุณสามารถเพิ่ม นำออก และค้นหา URL ในประวัติของเบราว์เซอร์ได้ หากต้องการลบล้างหน้าประวัติด้วยเวอร์ชันของคุณเอง โปรดดูลบล้างหน้า
i18n: ใช้โครงสร้างพื้นฐาน chrome.i18n เพื่อใช้การแปลแอปหรือส่วนขยายทั้งแอป
ข้อมูลระบุตัวตน: ใช้ chrome.identity API เพื่อรับโทเค็นเพื่อการเข้าถึง OAuth2
ไม่ได้ใช้งาน: ใช้ chrome.idle API เพื่อตรวจหาเมื่อสถานะว่างของเครื่องเปลี่ยนไป
input.ime: ChromeOS เท่านั้น

ใช้ chrome.input.ime API เพื่อติดตั้งใช้งาน IME ที่กำหนดเองสำหรับ ChromeOS ซึ่งจะช่วยให้ส่วนขยายจัดการการกดแป้น ตั้งค่าการเขียน และจัดการหน้าต่างคำแนะนำได้
instanceID: Chrome 44 ขึ้นไป

ใช้ chrome.instanceID เพื่อเข้าถึงบริการรหัสอินสแตนซ์
loginState: Chrome 78 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น

ใช้ chrome.loginState API เพื่ออ่านและตรวจสอบสถานะการเข้าสู่ระบบ
วิดีโอ: chrome.management API มีวิธีจัดการแอปและส่วนขยายที่ติดตั้ง
การแจ้งเตือน: ใช้ chrome.notifications API เพื่อสร้างการแจ้งเตือนที่สมบูรณ์โดยใช้เทมเพลต และแสดงการแจ้งเตือนเหล่านี้ต่อผู้ใช้ในถาดระบบ
นอกหน้าจอ: Chrome 109 ขึ้นไป MV3 ขึ้นไป

ใช้ offscreen API เพื่อสร้างและจัดการเอกสารนอกหน้าจอ
แถบอเนกประสงค์: API แถบอเนกประสงค์ช่วยให้คุณลงทะเบียนคีย์เวิร์ดกับแถบที่อยู่ของ Google Chrome ซึ่งเรียกอีกอย่างว่าแถบอเนกประสงค์ได้
pageCapture: ใช้ chrome.pageCapture API เพื่อบันทึกแท็บเป็น MHTML
สิทธิ์: ใช้ chrome.permissions API เพื่อขอสิทธิ์ที่ไม่บังคับที่ประกาศไว้ในเวลาเรียกใช้แทนที่จะเป็นเวลาติดตั้ง เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจว่าทำไมจึงต้องมีสิทธิ์และให้สิทธิ์เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
platformKeys: Chrome 45 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น

ใช้ chrome.platformKeys API เพื่อเข้าถึงใบรับรองไคลเอ็นต์ที่แพลตฟอร์มจัดการ หากผู้ใช้หรือนโยบายให้สิทธิ์ ส่วนขยายจะใช้ใบรับรองดังกล่าวในโปรโตคอลการตรวจสอบสิทธิ์ที่กำหนดเองได้ เช่น การดำเนินการนี้จะอนุญาตให้ใช้ใบรับรองที่แพลตฟอร์มจัดการใน VPN ของบุคคลที่สาม (ดู chrome.vpnProvider)
power: ใช้ chrome.power API เพื่อลบล้างฟีเจอร์การจัดการพลังงานของระบบ
printerProvider: Chrome 44 ขึ้นไป

chrome.printerProvider API แสดงเหตุการณ์ที่ใช้โดยตัวจัดการการพิมพ์เพื่อค้นหาเครื่องพิมพ์ที่ส่วนขยายควบคุม เพื่อค้นหาความสามารถของเครื่องพิมพ์ และเพื่อส่งงานพิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์เหล่านี้
การพิมพ์: Chrome 81 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น

ใช้ chrome.printing API เพื่อส่งงานพิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์ที่ติดตั้งใน Chromebook
printingMetrics: Chrome 79 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น ต้องใช้นโยบาย

ใช้ chrome.printingMetrics API เพื่อดึงข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานการพิมพ์
ความเป็นส่วนตัว: ใช้ chrome.privacy API เพื่อควบคุมการใช้งานฟีเจอร์ใน Chrome ที่อาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ API นี้อาศัยต้นแบบ ChromeSetting ของ Type API ในการรับและตั้งค่ากำหนดค่าของ Chrome
processes: ช่องทางเวอร์ชันที่กำลังพัฒนา

ใช้ chrome.processes API เพื่อโต้ตอบกับกระบวนการของเบราว์เซอร์
พร็อกซี: ใช้ chrome.proxy API เพื่อจัดการการตั้งค่าพร็อกซีของ Chrome API นี้อาศัยต้นแบบ ChromeSetting ของ API ประเภทสำหรับการรับและการตั้งค่าพร็อกซี
readingList: Chrome 120 ขึ้นไป MV3 ขึ้นไป

ใช้ chrome.readingList API เพื่ออ่านและแก้ไขรายการในรายการอ่าน
รันไทม์: ใช้ chrome.runtime API เพื่อดึงข้อมูล Service Worker, แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับไฟล์ Manifest รวมถึงรับฟังและตอบสนองต่อเหตุการณ์ในวงจรของส่วนขยาย นอกจากนี้ คุณยังใช้ API นี้เพื่อแปลงเส้นทางสัมพัทธ์ของ URL เป็น URL ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนได้ด้วย
การเขียนสคริปต์: Chrome 88 ขึ้นไป MV3 ขึ้นไป

ใช้ chrome.scripting API เพื่อเรียกใช้สคริปต์ในบริบทต่างๆ
search: Chrome 87 ขึ้นไป

ใช้ chrome.search API เพื่อค้นหาผ่านผู้ให้บริการเริ่มต้น
เซสชัน: ใช้ chrome.sessions API เพื่อค้นหาและกู้คืนแท็บและหน้าต่างจากเซสชันการท่องเว็บ
sidePanel: Chrome 114 ขึ้นไป MV3 ขึ้นไป

ใช้ chrome.sidePanel API เพื่อโฮสต์เนื้อหาในแผงด้านข้างของเบราว์เซอร์ควบคู่ไปกับเนื้อหาหลักของหน้าเว็บ
พื้นที่เก็บข้อมูล: ใช้ chrome.storage API เพื่อจัดเก็บ เรียก และติดตามการเปลี่ยนแปลงข้อมูลผู้ใช้
system.cpu: ใช้ system.cpu API เพื่อค้นหาข้อมูลเมตาของ CPU
system.display: ใช้ system.display API เพื่อค้นหาข้อมูลเมตาที่แสดง
system.memory: chrome.system.memory API
system.storage: ใช้ chrome.system.storage API เพื่อค้นหาข้อมูลอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลและรับการแจ้งเตือนเมื่อมีการเชื่อมต่อและยกเลิกการเชื่อมต่ออุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลแบบถอดได้
systemLog: Chrome 125 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น ต้องใช้นโยบาย

ใช้ chrome.systemLog API เพื่อบันทึกบันทึกของระบบ Chrome จากส่วนขยาย
tabCapture: ใช้ chrome.tabCapture API เพื่อโต้ตอบกับสตรีมสื่อของแท็บ
tabGroups: Chrome 89 ขึ้นไป MV3 ขึ้นไป

ใช้ chrome.tabGroups API เพื่อโต้ตอบกับระบบการจัดกลุ่มแท็บของเบราว์เซอร์ คุณสามารถใช้ API นี้เพื่อแก้ไขและจัดเรียงกลุ่มแท็บในเบราว์เซอร์ได้ หากต้องการจัดกลุ่มและเลิกจัดกลุ่มแท็บ หรือค้นหาว่าแท็บใดอยู่ในกลุ่ม ให้ใช้ chrome.tabs API
แท็บ: ใช้ chrome.tabs API เพื่อโต้ตอบกับระบบแท็บของเบราว์เซอร์ คุณสามารถใช้ API นี้เพื่อสร้าง แก้ไข และจัดเรียงแท็บในเบราว์เซอร์ได้
topSites: ใช้ chrome.topSites API เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ยอดนิยม (เช่น เว็บไซต์ที่มีการเข้าชมมากที่สุด) ที่แสดงในหน้าแท็บใหม่ โดยจะไม่รวมทางลัดที่ผู้ใช้ปรับแต่ง
tts: ใช้ chrome.tts API เพื่อเล่นการอ่านออกเสียงข้อความ (TTS) ที่สังเคราะห์ ดู API ที่เกี่ยวข้องของ ttsEngine ซึ่งช่วยให้ส่วนขยายสามารถติดตั้งใช้งานเครื่องมือแปลงข้อความเป็นคำพูดได้
ttsEngine: ใช้ chrome.ttsEngine API เพื่อติดตั้งใช้งานเครื่องมืออ่านออกเสียงข้อความ(TTS) โดยใช้ส่วนขยาย หากส่วนขยายลงทะเบียนโดยใช้ API นี้ ส่วนขยายจะได้รับเหตุการณ์ที่มีข้อความที่จะพูดและพารามิเตอร์อื่นๆ เมื่อส่วนขยายหรือแอป Chrome ใช้ tts API เพื่อสร้างคำพูด จากนั้นส่วนขยายจะใช้เทคโนโลยีเว็บที่มีอยู่เพื่อสังเคราะห์และส่งออกคำพูด รวมถึงส่งเหตุการณ์กลับไปยังฟังก์ชันการเรียกเพื่อรายงานสถานะ
ประเภท: chrome.types API มีการประกาศประเภทสำหรับ Chrome
userScripts: Chrome 120 ขึ้นไป MV3 ขึ้นไป

ใช้ userScripts API เพื่อเรียกใช้สคริปต์ของผู้ใช้ในบริบทของสคริปต์ของผู้ใช้
vpnProvider: Chrome 43 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น

ใช้ chrome.vpnProvider API เพื่อติดตั้งใช้งานไคลเอ็นต์ VPN
วอลเปเปอร์: Chrome 43 ขึ้นไป ChromeOS เท่านั้น

ใช้ chrome.wallpaper API เพื่อเปลี่ยนวอลเปเปอร์ ChromeOS
webAuthenticationProxy: Chrome 115 ขึ้นไป MV3 ขึ้นไป

chrome.webAuthenticationProxy API ช่วยให้ซอฟต์แวร์เดสก์ท็อประยะไกลที่ทำงานในโฮสต์ระยะไกลสกัดกั้นคำขอ Web Authentication API (WebAuthn) เพื่อจัดการคำขอในไคลเอ็นต์ภายใน
webNavigation: ใช้ chrome.webNavigation API เพื่อรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับสถานะของคำขอการนำทางระหว่างการเดินทาง
webRequest: ใช้ chrome.webRequest API เพื่อสังเกตและวิเคราะห์การเข้าชม รวมถึงสกัดกั้น บล็อก หรือแก้ไขคำขอที่อยู่ระหว่างดำเนินการ
windows: ใช้ chrome.windows API เพื่อโต้ตอบกับหน้าต่างเบราว์เซอร์ คุณสามารถใช้ API นี้เพื่อสร้าง แก้ไข และจัดเรียงหน้าต่างในเบราว์เซอร์ได้