วันพฤหัสบดีที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563
เลียม เบรดี้ ตำนานอาร์เซน่อล หนุน อาร์เตต้า ดองโอซิล
วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2563
ปูโยลชู เมสซี่ แข้งเก่งสุด ตลอดกาล
การ์เลส ปูโยล ตำนานกองหลังของ บาร์เซโลน่า สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลา ลีกา สเปน แสดงความเชื่อว่า ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิง "อาซูลกราน่า" คือนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาลของโลกลูกหนัง
เมสซี่ เพิ่งเป็นเจ้าของสถิติการยิงให้ทีมเดียวมากที่สุดตลอดกาลแบบเดี่ยวๆ จากการที่ทำประตูให้กับ บาร์เซโลน่า รวมกันในทุกรายการได้แล้ว 644 ลูก ทำลายสถิติของ เปเล่ ที่ยืนยาวมานานได้ ขณะที่ตลอดช่วงที่ผ่านมาเขาก็เคยสร้างสถิติหลายอย่างเอาไว้ได้เช่นกัน
ปูโยล เผยว่า "ถ้าคุณถามผมว่า ไมเคิ่ล จอร์แดน คือใคร ผมก็จะตอบว่าเขาเป็นนักบาสเกตบอลที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์ และผมก็คิดว่า เมสซี่ มีสถานะแบบเดียวกัน นั่นคือเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาล"
"แน่นอน มันมีการถกเถียงเหมือนกันว่า ไมเคิ่ล จอร์แดน เป็นนักบาสเกตบอลที่เก่งที่สุดในประวัติศาสตร์รึเปล่า และมันก็มีความเห็นแตกต่างกันไป ซึ่งบางครั้งคนก็ยอมรับความจริงได้ยาก มันก็เหมือนกับกรณีที่แฟนบอล เรอัล มาดริด ยอมรับได้ยากว่า เมสซี่ เป็นนักเตะที่เก่งที่สุดนั่นแหละ"
"เราโชคดีมากๆ ที่มีนักเตะแบบเขาอยูในทีม แต่ต่อให้ผมต้องพูดโดยที่ไม่ได้เป็น กูเล่ (ชื่อเล่นอย่างหนึ่งที่สื่อถึง บาร์เซโลน่า) ผมก็ยังต้องบอกว่าเขาเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดอยู่ดี เพราะตัวเลขผลงานต่างๆ มันเป็นหลักฐานที่ชัดเจนอยู่แล้ว มันไม่ได้เป็นตัวเลขที่ถูกกุขึ้นมาสักหน่อย มันแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นนักเตะที่เก่งที่สุด"
"ตอนนี้เราคงบอกได้เพียงว่ามันไม่มีใครที่จะทำได้ดีไปกว่าเขา แต่ผมหวังว่าในอนาคตจะมีคนที่ทำได้เหนือกว่าเขา สำหรับฟุตบอลและคนรักกีฬาแล้วนั้น ถ้ามีคนทำเรื่องแบบนั้นได้มันก็จะเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราจะได้เห็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมหลายเรื่อง ส่วนตัวแล้วผมมองว่ามันเป็นเรื่องยากมากๆ ที่จะมีใครทำผลงานได้ในระดับเดียวกับเขาในช่วงหลายปีต่อจากนี้ มันอาจจะถึงขั้นเป็นไปไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนี้เราคงทำได้เพียงรอให้มีโอกาสที่จะเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นและเพลิดเพลินกับ เลโอ ไปก่อน"
ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> aisufabet.com | 4thinkufabet.com
วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563
2 ทีม แมนเชสเตอร์ ติดต่อ เอเยนต์ทาบ อลาบา ร่วมทัพ
อาส สื่อของสเปน ตีข่าว แมนฯ ซิตี้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ติดต่อไปยัง ปินี่ ซาฮาวี่ นายหน้าของ ดาวิด อลาบา เพื่อคุยถึงเรื่องที่จะดึงแข้งชาวออสเตรียมาร่วมก๊วน ขณะที่ เรอัล มาดริด อีก 1 ทีมที่แอบเหล่ อลาบา อยู่นั้น น่าจะดึง อลาบา ไปเสริมทัพไม่ไหว เพราะติดปัญหาเรื่องค่าเหนื่อย
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ติดต่อไปหา ปินี่ ซาฮาวี่ เอเยนต์ของ ดาวิด อลาบา กองหลัง บาเยิร์น มิวนิค เพื่อคุยถึงความเป็นไปได้ที่จะเซ็นสัญญากับดาวเตะชาวออสเตรีย ตามรายงานของ อาส สื่อชั้นนำของประเทศสเปน
อลาบา จะหมดสัญญากับทีมในช่วงเดือนมิถุนายนนี้แล้ว และถึงแม้ บาเยิร์น จะพยายามจับเขาต่อสัญญาให้ได้ตลอดช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ โดยว่ากันว่าสาเหตุหลักเป็นเพราะแข้งวัย 28 ปี ต้องการค่าเหนื่อยเท่ากับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หัวหอกคนสำคัญของทีมที่ตอนนี้รับเงินอยู่ 12 ล้านยูโร (ประมาณ 432 ล้านบาท) ต่อฤดูกาล แต่ บาเยิร์น ไม่พร้อมจ่ายเงินให้มากในระดับนั้น
แม้ว่า เรอัล มาดริด จะให้ความสนใจในตัว อลาบา เหมือนกัน แต่เป็นที่เชื่อกันว่าตอนนี้ "ราชันชุดขาว" ไม่สามารถให้ค่าเหนื่อยกับ อลาบา ถึงระดับ 12 ล้านยูโรต่อซีซั่นได้ อย่างไรก็ตาม อาส ก็ไม่ได้บอกว่า 2 ทีมแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ตั้งใจจะซิว อลาบา ตั้งแต่ในช่วงเดือนมกราคมนี้เลย หรือจะรอเซ็นสัญญากับเขาแบบฟรีๆ เมื่อถึงช่วงซัมเมอร์ ปีหน้า
ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/
วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563
ปีร์โล่ ปลื้ม ยูเวนตุส เล่นถูกใจ เกมบุกต้อนปาร์ม่า
อันเดรีย ปีร์โล่ เฮดโค้ชชื่อดังของ ยูเวนตุส ยืนยันว่า นี่คือฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมของทีมที่ตนต้องการเห็น หลังจากที่ทัพ "ม้าลาย" โชว์แกร่ง บุกไปพิชิต ปาร์ม่า ด้วยสกอร์สุดหรู 4-0 ในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เมื่อวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา
เกมที่แล้ว ยูเวนตุส ทำได้แค่เปิดบ้านเสมอ อตาลันต้า 1-1 เมื่อวันพุธที่ 16 ธันวาคม แต่เกมนี้ที่ สตาดิโอ เอ็นนิโอ ตาร์ดินี่ ทีม "เบียงโคเนรี่" เค้นฟอร์มอันสุดยอดมาได้ โดยได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 22 จาก เดยัน คูลูเซฟสกี้
หลังจากนั้นแค่ 3 นาที ยูเว่ หนีเป็น 2-0 จากการลอยตัวโขกของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก่อนที่จะเพิ่มสกอร์เป็น 3-0 จากการยิงของ โรนัลโด้ เจ้าเดิม ในนาทีที่ 48 ซึ่งช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 ยูเวนตุส ได้ประตูปิดท้ายจาก อัลบาโร่ โมราต้า
ชัยชนะนัดนี้ทำให้ "ม้าลาย" มีคะแนนเพิ่มเป็น 27 แต้ม จากการลงแข่ง 13 นัด แซง อินเตอร์ มิลาน ขึ้นมารั้งอันดับสอง ด้วยการมีผลต่างประตูได้-เสียดีกว่า และตามหลัง เอซี มิลาน ทีมจ่าฝูง ที่ลงเตะน้อยกว่า 1 นัด แต้มเดียว
"นี่คือ ยูเวนตุส ที่ผมต้องการเห็น เราจำเป็นต้องคว้าชัยชนะในเกมนี้ ขณะที่ คริสเตียโน่ กับ อัลบาโร่ ต่างก็ต้องการกลับมาทำประตูให้ได้อีกครั้ง ส่วน อารอน แรมซี่ย์ ก็มีเกมที่ดีมากๆ เช่นกัน เราไม่แฮปปี้กับผลการแข่งขันในเกมเมื่อวันพุธ เพราะเราเองก็เล่นกันได้ดี ดังนั้นเกมนี้เราจึงอยากชดเชยคะแนนที่เราทำหลุดมือไปในเกมเจอกับ อตาลันต้า และผมก็คิดว่า เราทำได้ดีเลยทีเดียว" ปีร์โล่ กล่าวหลังเกม
ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/
วันพฤหัสบดีที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2563
"ลอฟเรน" พักอกคืนโกล แต่พลาดมหันต์
เดยัน ลอฟเรน เซนเตอร์แบ็กมากประสบการณ์ของ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก โชว์ลีลาลูกหนังให้โลกต้องจดจำเมื่อพยายามพักอกเพื่อส่งบอลคืนผู้รักษาประตู แต่ดันผิดพลาดจนเป็นเหตุให้ทีมต้องเสียประตู ในเกมรัสเซียน พรีเมียร์ลีก พบ สปอร์ตัก มอสโก เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ปราการหลังชาวโครแอต ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเตะสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ย้ายจาก "หงส์แดง" มาเล่นให้กับทีมดังแห่งลีกแดนหมีขาว และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อนำต้นสังกัดรั้งจ่าฝูงลีกรัสเซีย
อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่า ลอฟเรน ยังไงก็ต้องมีชอตเด็ดให้เห็นอยู่แล้ว ล่าสุดสิ่งนี้เกิดขึ้นในเกมที่พบกับ สปาร์ตัก มอสโก โดยในเวลานั้น เซนิต มีสกอร์นำคู่แข่ง 1-0 และทุกอย่างดูเหมือนจะอยู่ในมือพวกเขา แต่แล้ว กองหลังวัย 31 ปีก็ทำให้เรื่องง่ายๆ กลายเป็นเรื่องน่าผิดหวัง
จังหวะดังกล่าวเกิดขึ้นตอนที่ วิคเตอร์ โมเซส เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และซาร์ดาร์ อัซมูน หัวหอกสปาร์ตัก มอสโก โหม่งบอลกลับเข้าไปตรงกลางประตู ซึ่งดูแล้วไม่มีอะไรที่อันตรายเลย แต่ ลอฟเรน ดันสร้างชอตแห่งความทรงจำด้วยการโชว์เหนือชั้นใช้อกพักบอลเพื่อคืนให้กับนายทวารแต่ดันแรงเกินไปทำให้บอลข้ามหัวเข้าประตู
อย่างไรก็ตาม ลอฟเรน ยังโล่งใจได้เพราะหลังจากนั้น ยาโรสลาฟ ราคิตสกี้ และ อาร์เทม ซูบา ช่วยกันยิงอีกคนละประตูทำให้ เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กส ไล่ต้อน สปาร์ตัก มอสโก ด้วยสกอร์ 3-1 ส่งผลให้ทีมพวกเขายังยึดจ่าฝูงลีกอย่างเหนียวแน่น โดยมีแต้มทิ้งห่าง 7 คะแนน
ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> http://maligue1.com/ | http://gpfgoyang.com/
วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2563
"ฟาน กัล"เป็นห่วง"ฟาน เดอ เบ็ค"หวังโอกาสจะมาในเร็ววัน
หลุยส์ ฟาน กัล ที่ตอนนี้ได้เกษียณตัวเองออกจากวงการลูกหนัง ออกมากล่าวถึงความหวังที่ตนมีต่อกองกลางรุ่นหลานที่ตอนนี้ยังคงไม่ได้เป็น 11 ตัวจริงของแมนฯยูไนเต็ด โดยเกมล่าสุดก็ไม่ได้ลงสนามในเกมแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
40 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 1,600 ล้านบาทของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ที่ย้ายมาสวมเสื้อปีศาจแดงช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่กลับต้องมาเป็นอะไหล่ของแผนการทำทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา
"ผมคิดว่าการย้ายเข้าโรงละครแห่งความฝันไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ที่ดีนักสำหรับ ดอนนี่ เพราะที่นั่นมีกองกลางให้เลือกมากมาย ที่สำคัญสไตล์การเล่นของ ดอนนี่ ยังไม่เข้ากับแผนการเล่นของ โอเล่ อีกด้วย"
"จากที่เขาเคยประความสำเร็จกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม เขากลับต้องมาเป็นตัวเลือกรองจาก เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์"
"เห็นได้ชัดจากแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ที่ผ่านมาที่ โอเล่ เลือกใช้ 4 ขุนพลแดนกลางแล้วให้ ดอนนี่ นั่งสำรอง ด้วยรูปเกมตอนนั้นผมคิดว่า โอเล่ จะเปลี่ยนนักเตะสารพัดประโยชน์คนนี้ลงมา แต่เปล่าเลยเขากับเลือกเปลี่ยน มาร์กซิยาล ลงมาเพียงคนเดียว"
"ด้วยความสามารถและคุณสมบัติของ ดอนนี่ ผมคิดว่าเขาเหมาะสมที่จะเล่นให้กับยักษ์ใหญ่ในเวทียุโรปเลยล่ะ"
ติดตามข่าวเพิ่มเติม >> https://bulahdelahevents.com/ | http://banknegar.com/
วันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2563
เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยข่าวดีอลีสซงก่อนลิเวอร์พูลชนฟูแล่ม
เจอร์เก้น คล็อปป์ เผยข่าวดีอลีสซงก่อนลิเวอร์พูลชนฟูแล่ม แต่ในรายของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า, เจมส์ มิลเนอร์ และ เซอร์ดาน ชากีรี่ หมดสิทธิ์เล่นแน่นอน
วันจันทร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2563
ดูแลผิวสวยให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ได้อย่างไร ?
1. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในแต่ละวัน
หลายคนไม่กล้าดื่มน้ำเยอะ เพราะกลัวตัวบวมน้ำ ไม่ต้องกังวลไปถ้าดื่มน้ำอย่างถูกวิธี ด้วยการค่อย ๆ จิบที่ละนิดไปตลอดทั้งวัน อย่าปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำเด็ดขาด และอย่าดื่มน้ำรวดเดียวทีละเยอะ ๆ เพราะจะทำให้ร่างกายเร่งขับน้ำออก เมื่อน้ำในร่างกายถูกขับออกหมด น้ำในร่างกายก็จะเหลือไม่พอที่จะให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว ผลก็คือจะทำให้ผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื่นและความเต่งตึง
2. นอนหลับให้เพียงพอ
เทรนด์อดนอนไม่ควรนำมาใช้เด็ดขาด เพราะนอกจากจะทำให้สุขภาพแย่แล้ว ยังทำร้ายผิวอีกด้วย ซึ่งในขณะที่เรากำลังนอนหลับอยู่นั้น ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนเพื่อทำการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ไม่เว้นแม้กระทั่งผิว ลองสังเกตดูก็ได้ว่าระหว่างคืนที่นอนเต็มอิ่มเปรียบเทียบกับคืนที่นอนไม่อิ่ม แบบไหนที่ทำให้ผิวหน้าของเราเด้งกว่ากัน
3. เติมอาหารให้ผิวด้วยครีมบำรุง
ไม่จำกัดเฉพาะแค่ครีมเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับดูแลผิวหน้าแบบไหนก็ได้ทั้งนั้น เช่น โลชั่น เซรั่ม หรืออิมัลชั่น (Emulsion) สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเลือกผลิตภัณฑ์ก็คือ สภาพผิวหน้าของเรา เช่น ผิวธรรมดา ผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม เพื่อที่จะเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับเรา รองลงมาก็คือ รู้ปัญหาผิว เช่น หมองคล้ำ ขาดความชุ่มชื่น หรือมีริ้วรอย เป็นต้น
4. มาสก์หน้าเป็นประจำ
ถึงแม้จะใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในทุก ๆ วันแล้ว ในบางครั้งก็ไม่พอที่จะดูแลผิวของเรา อย่างเช่น ในบางวันที่ต้องการความชุ่มชื่นให้กับผิวหน้าเป็นพิเศษ หรือในวันที่ต้องเผชิญกับแสงแดดหรือมลภาวะจนหน้าหมองคล้ำกว่าทุกวัน มาส์กหน้าจะช่วยจัดการดูแลเรื่องพวกนี้ให้ พร้อมบำรุงผิวไปด้วยในตัว
5. แม้แต่อากาศก็ยังต้องการน้ำ เติมน้ำให้อากาศบ้าง
ผิวแห้งมาก ๆ เพราะอากาศที่อยู่รอบตัวเราดูดน้ำไปจากผิวหนังของเรานั่นเอง และยิ่งเฉพาะอยู่แต่ในห้องที่เปิดแต่เครื่องปรับอากาศทั้งวันแล้วด้วย ยิ่งแห้ง ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้อากาศดูดน้ำจากผิวของเราไปแห้งกร้านจนเหี่ยว ก็ให้เอาวางถ้วยใส่น้ำอุ่นชามใหญ่ตั้งไว้ใกล้ ๆ
หรือถ้ามีงบหน่อยก็ซื้อเครื่องสร้างความชื้นไปเลยก็ได้ เพราะนอกจากจะทำให้ห้องชื้นไม่แห้งแล้ว ยังสร้างกลิ่นหอม ๆ ซึ่งช่วยให้เราผ่อนคลายได้อีกด้วย
6. ทานอาหารให้ครบหมู่ และไม่อดอาหาร
สวยจากภายนอกแล้ว ก็ต้องสวยจากภายในคู่กันไปด้วย เพราะผิวก็ต้องการวิตามินและเกลือแร่เช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย แถมยังช่วยให้ระบบการย่อยอาหารและขับถ่ายดีด้วย ซึ่งก็จะส่งผลให้ผิวสวยตามมา นอกจากนี้ไม่ควรที่จะอดอาหาร
เพราะจะส่งให้กล้ามเนื้อและผิวหนังไม่กระชับและผิวหย่อนคล้อยตามมาได้ รวมไปถึงอาจส่งผลให้เกิดภาวะการขาดวิตามินที่จำเป็นต่อผิว ซึ่งอาจทำให้เกิดสิ่งผิดปกติกับผิวหนังได้อย่าง ผื่นแดง ผิวตกสะเก็ด เป็นต้น
7. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังจะช่วยให้ขับเหงื่อออกมา พร้อมกันนั้นก็ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นให้ผิวด้วยจากการกระตุ้นต่อมผลิตไขมัน และทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดี ซึ่งจะส่งผลให้ผิวดูสุขภาพดี และชะลออายุผิวได้อีกด้วย หากเราออกกำลังกายสม่ำเสมอก็จะทำให้ดูหน้าเด็ก ผิวใสจนใครเห็นก็ต้องอิจฉา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คุณกำลังใช้มาร์คแผ่นแบบผิดๆ อยู่หรือเปล่า
วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2563
คุณกำลังใช้มาร์คแผ่นแบบผิดๆ อยู่หรือเปล่า
ต่อไปนี้คือข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับใครหลายคน ไปเช็กกันดูว่ามีข้อผิดพลาดใดบ้างที่เราควรทำให้ถูกขั้นตอนสำหรับการมาสก์หน้าในครั้งต่อไป
1.ไม่ทำความสะอาดหน้าก่อนมาสก์
มีหลายคนกลับจากเรียน หรือทำงานเหนื่อยๆ นึกจะมาสก์หน้าเพิ่มความสดชื่นก็แปะแผ่นมาสก์ลงไปเลย ทั้งๆ ที่ใบหน้ายังไม่ได้ทำความสะอาด การทำแบบนี้นอกจากจะไม่ได้รับคุณค่าของเอสเซนส์ที่อยู่ในแผ่นมาสก์อย่างเต็มที่แล้ว ยังเท่ากับเป็นการสะสมสิ่งสกปรกยิ่งกว่าเดิมอีกด้วย
We Say: ครั้งต่อไป ไม่ว่าหนุ่มๆ สาวๆ จะเหนื่อยโทรมมาจากไหน ก่อนจะแปะแผ่นมาสก์ลงไปบนผิวหน้า ควรสละเวลาสักเล็กน้อยเพื่อล้างหน้าทำความสะอาดผิวก่อน 1 รอบ ใครจะเพิ่มการเช็ดโทนเนอร์ด้วยก็ได้ แล้วค่อยแปะแผ่นมาสก์ลงไป เพราะผิวหน้าที่สะอาดจะช่วยให้เอสเซนส์ในแผ่นมาสก์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น
2.ทาครีมก่อนมาสก์หน้า
บางคนอยากเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวเต็มที่ เลยเคยชินกับการทาครีมบำรุงก่อนจะทำการมาสก์หน้า วิธีนี้ไม่ผิด แต่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพราะในแผ่นมาสก์มีเอสเซนส์ที่แต่ละแบรนด์พัฒนาสูตรมาพร้อมการบำรุงเต็มที่อยู่แล้ว
We Say: เก็บครีมบำรุงไว้ทาหลังเสร็จสิ้นการมาสก์หน้าจะให้ผลที่ดีมากกว่า
3.ไม่อ่านคำแนะนำบนฉลาก
รู้หรือไม่ว่าแผ่นมาสก์แต่ละยี่ห้อมีขั้นตอนการใช้งานที่แตกต่างกัน ขีดเส้นใต้เอาไว้เลยว่า ไม่ใช่ว่ามาสก์ทุกแผ่นที่มาสก์เสร็จแล้วสามารถทาครีมบำรุงต่อได้เลย เพราะมีบางยี่ห้อที่พอมาสก์หน้าเสร็จแล้วต้องล้างหน้าอีกหนึ่งรอบ แล้วค่อยตามด้วยสกินแคร์ที่ใช้บำรุงผิวตามปกติ ใครที่ยังเข้าใจว่ามาสก์ทุกแผ่นบนโลกใบนี้ไม่ต้องล้างออกนั้นควรทำความเข้าใจเสียใหม่ เพราะหากยังใช้มาสก์แบบผิดวิธี อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดการแพ้ เกิดสิว หรือทำให้ผิวระคายเคืองจาก การมาสก์ได้
We Say: เมื่อจะใช้มาสก์แผ่นครั้งต่อไป พลิกดูฉลากด้านหลังแผ่นมาสก์สักนิด อ่านให้เข้าใจว่ามาสก์ที่กำลังจะใช้เป็นแบบล้างออก หรือไม่ต้องล้างออก เพื่อการใช้งานที่ถูกต้อง และได้รับผลที่ดีที่สุดจากการใช้อย่างถูกวิธี
4.ทิ้งแผ่นมาสก์ไว้เกินเวลา
หลายคนคิดว่าเพื่อความคุ้มค่าในการมาสก์หน้าแต่ละแผ่น ฉันจะต้องทิ้งแผ่นมาสก์ไว้บนหน้านานๆ ยิ่งนานยิ่งดี! นี่เป็นอีกหนึ่งความเชื่อส่วนตัวที่ผิดมหันต์ อย่าให้ความคุ้มค่าที่คิดไปเองว่าจะได้ (แต่พัง) มาทำให้ผลลัพธ์แย่กว่าเดิม
อลิเซีย ยุน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของแบรนด์เกาหลีชื่อดังอย่าง Peach & Lily และผู้เชี่ยวชาญเรื่องทิปส์ความงามคนหนึ่งของเกาหลีกล่าวว่า “การทิ้งแผ่นมาสก์ไว้จนเริ่มแห้ง แทนที่ผิวจะได้รับความชุ่มชื้น กลายเป็นว่ามันจะทำให้ผิวคุณแย่ลง เนื่องจากแผ่นมาสก์ที่แห้งจะทำให้เกิดกระบวนออสโมซิส โดยความชุ่มชื้นจากผิวหน้าของเราจะถูกแผ่นมาสก์ดึงกลับไป”
We Say: หากในฉลากระบุเวลาว่าให้มาสก์ทิ้งไว้ 15-20 นาที ก็ต้องลอกแผ่นมาสก์ออกเมื่อครบเวลา อย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป ใครที่เผลอนอนหลับไปพร้อมกับแผ่นมาสก์บ่อยๆ ให้รีบเปลี่ยนพฤติกรรมด่วน
5.ไม่ไยดีเอสเซนส์ที่ค้างอยู่ในซอง
ยังมีหลายคนที่ใช้งานแค่แผ่นมาสก์เท่านั้น ส่วนเอสเซนส์ที่เหลือในซองก็ทิ้งไป อยากบอกว่ามันไม่ผิดหรอกถ้าจะทิ้ง แต่มันน่าเสียดายที่ไม่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ให้เต็มที่จนหยดสุดท้าย เพราะเอสเซนส์ที่ค้างอยู่ในซองอุดมด้วยสารบำรุงไม่ต่างจากในแผ่นมาสก์
We Say: ครั้งต่อไปอย่าเพิ่งทิ้ง เทเอาเอสเซนส์ที่ค้างอยู่ในซองมาทาผิว บริเวณคอหรือหลังมือ เพื่อมาสก์คอและมือให้ชุ่มชื้นไปพร้อมกัน
มาร์คเสร็จแล้วไม่บำรุงต่อ
ในแผ่นมาสก์บางสูตรไม่ได้อัดแน่นด้วยคุณสมบัติเพื่อการบำรุงผิวที่ให้ผลเทียบเท่าสกินแคร์ที่สาวๆ ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ก็ยังมีหลายคนที่คิดว่ามาสก์เสร็จแล้วไม่ต้องทาครีมต่อก็ได้ เพราะเท่ากับได้รับการบำรุงแล้ว แต่หากคุณเป็นคนที่มีปัญหาผิวอื่นๆ อีก เช่น มีริ้วรอย มีสิว มีจุดด่างดำต่างๆ ที่ต้องการบำรุงและรักษาอย่างต่อเนื่องด้วยสกินแคร์ที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวของตัวเองก็ไม่ควรละเลยขั้นตอนนี้
We Say: หากเป็นคนไม่มีปัญหาผิวอื่น และคิดว่าแผ่นมาสก์ที่ใช้มีสารบำรุง เข้มข้นมาก จะไม่ใช้มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงต่อก็ไม่ผิด แต่หากคุณกังวลกับปัญหาผิวอื่นๆ ที่ปรากฏอยู่บนใบหน้า เช่น สิว ริ้วรอย ความหมองคล้ำ การใช้มาสก์หนึ่งแผ่นไม่ได้ช่วยบำรุงแบบครอบคลุมทุกปัญหา จึงควรใช้ครีมบำรุงหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนมาสก์
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วันจันทร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2563
ฟีฟ่ามาเอง! ยืนยัน เตรียมมอบเงินเยียวยาวงการฟุตบอลทั่วโลก
สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เตรียมมอบเงินเยียวยา เพื่อช่วยเหลือวงการฟุตบอลของชาติสมาชิก ที่มีอยู่ 211 ประเทศทั่วโลก หลังจากที่ได้รับผลกระทบ จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา ฟีฟ่า ได้เผยโครงการเยียวยาวงการฟุตบอลโดยรวม ซึ่งในขั้นตอนแรก ฟีฟ่า จะมอบเงินสนับสนุนให้แก่สมาคมฟุตบอล งวดที่ 2 ประจำปี 2020 ตามโครงการ FIFA Forward 2.0 ชาติละ 5 แสนเหรียญสหรัฐฯ (ราว 16.2 ล้านบาท) เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเงินของแต่ละสมาคม ก่อนที่จะทำการเยียวยาในระดับสโมสร รวมถึงฝ่ายที่เกี่ยวข้องในลำดับถัดไป
โดย ฟีฟ่า ได้ทำการส่งแบบฟอร์มให้ชาติสมาชิก กรอกรายละเอียดถึงผลกระทบ ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นตัวเลขที่ชัดเจน พร้อมกับหลักฐานเอกสารสนับสนุน หลังจากนั้น ฟีฟ่าจะใช้ผู้เชี่ยวชาญในการประเมิน สรุปเป็นโครงการความช่วยเหลือประเทศสมาชิก
ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ทำการกรอกเอกสาร ส่งให้ฟีฟ่าพิจารณา และมีการติดตามความคืบหน้าแล้วเช่นกัน
ทั้งนี้ เงินเยียวยาจากโครงการสนับสนุนดังกล่าว คาดว่าอาจได้รับในจำนวนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละประเทศ โดยฟีฟ่าจะให้ระเบียบการใช้งบประมาณมาพร้อมกับเงินเยียวยาที่จะได้รับ เพื่อให้เกิดความยุติธรรม และสามารถตรวจสอบได้
จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า กล่าวกับเว็บไซต์ทางการของสหพันธ์ฯ ว่า “การระบาดของโรคครั้งนี้ ได้สร้างความท้าทายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กับวงการฟุตบอลโดยรวม และในฐานะที่เป็นองค์กรบริหารที่ดูแลชาติสมาชิกทั่วโลก มันคือหน้าที่ของฟีฟ่า ในการที่จะอยู่เคียงข้าง และสนับสนุนในสิ่งที่จำเป็น”
“นี่คือขั้นตอนแรกของแผนเยียวยาที่ต้องทำให้ทั่วถึง ซึ่งเรากำลังพัฒนา เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของวงการฟุตบอลโดยรวมอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกัน เราก็กำลังประเมินความเสียหายร่วมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่สุด ในการทำตามแผนเยียวยาขั้นตอนต่อไป”
ติดตาม ข่าวกีฬา ข่าวบอล แทงหวยออนไลน์
วันจันทร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2563
ย้ายหรือไม่ย้าย! "สตัม" ออกโรงแนะ "เดอ ลิกต์" หลังมีข่าว แมนฯ ยูไนเต็ด สนใจ
"ผมพอจะเห็นข่าวลือระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เดอ ลิกต์ มาบ้างในช่วงหลายวันนี้ แต่ตามความเห็นส่วนตัวอยากให้เขาอยู่ค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ต่อไปอีกยาว ๆ เพราะนี่คือหนทางเดียวที่จะยกระดับฝีเท้าขึ้นได้อย่างมั่นคง" สตัม กล่าว
"ด้วยความที่มีผู้เล่นระดับโลกรายล้อม เขาจะได้เรียนรู้สิ่งสำคัญต่างๆ มากมาย หัดแบกรับความกดดันอันหนักอึ้งเอาไว้ด้วยตัวเองจากเกมสำคัญๆ ในลีกกัลโช่ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก แค่นี้ก็เห็นภาพแล้วว่าอนาคตของเขาสดใสมากกับทีมนี้แน่นอน"
"ถึงแม้ในช่วงแรกจะโดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องฟอร์มการเล่น แต่หลังจากปรับตัวได้แล้ว เดอ ลิกต์ ก็เริ่มแสดงให้เห็นถึงผลงานที่จับต้องได้ ซึ่งเราต้องให้เวลาปรับตัวไปเรื่อย ๆ เพราะแต่ละลีกก็แตกต่างกันมากจริงๆ"
"อีกอย่างคือ ยูเวนตุส ลงทุนไปกับ เดอ ลิกต์ ด้วยเม็ดเงินมหาศาลก็เพราะต้องการปั้นเอาไว้เป็นอนาคตของสโมสร และเราจะได้เห็นผลลัพธ์งอกเงยอย่างดีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าชัวร์"
ติดตาม ข่าวบอล ข่าวต่างประเทศ แทงหวยออนไลน์