เกี่ยวกับคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยสำหรับ iPhone
คุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยเพิ่มการปกป้องอีกหนึ่งชั้นเมื่อ iPhone ของคุณอยู่ห่างจากสถานที่ที่คุ้นเคย เช่น บ้านหรือที่ทำงาน อีกทั้งยังช่วยปกป้องบัญชีและข้อมูลส่วนตัวในกรณีที่ iPhone ถูกขโมยอีกด้วย
เกี่ยวกับคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย
เมื่อเปิดใช้งานคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย คุณสมบัติและการทำงานบางอย่างจะมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมเมื่อ iPhone ของคุณอยู่ห่างจากสถานที่ที่คุ้นเคย เช่น บ้านหรือที่ทำงาน โดยที่ข้อกำหนดเหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ที่ขโมย iPhone และรู้รหัสสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลสำคัญของบัญชีหรืออุปกรณ์ได้
- การยืนยันตัวตนทางไบโอเมตริกด้วย Face ID หรือ Touch ID: การดำเนินการบางอย่าง เช่น การเข้าถึงรหัสผ่านและบัตรเครดิตที่จัดเก็บไว้ต้องมีการยืนยันตัวตนทางไบโอเมตริกด้วย Face ID หรือ Touch ID โดยไม่สามารถป้อนรหัสแทนวิธีไบโอเมตริกหรือป้อนรหัสเมื่อวิธีไบโอเมตริกไม่ผ่าน ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีเพียงคุณเท่านั้นที่เข้าถึงคุณสมบัติเหล่านี้ได้ 
- การรอเวลาเพื่อความปลอดภัย: การดำเนินการด้านความปลอดภัยบางอย่าง เช่น การเปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชี Apple ยังกำหนดให้คุณต้องรอหนึ่งชั่วโมงแล้วยืนยันตัวตนเพิ่มเติมด้วย Face ID หรือ Touch ID 
การรอเวลาเพื่อความปลอดภัยออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้หัวขโมยทำสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อการทำงานของ iPhone ที่ขโมยไป เพื่อให้คุณยังสามารถระบุว่าอุปกรณ์สูญหายได้และตรวจสอบดูแลให้บัญชี Apple ของคุณปลอดภัย
ระบุว่าอุปกรณ์ของคุณสูญหายบน icloud.com
ดูสิ่งที่ควรทำหาก iPhone ถูกขโมย
เมื่อ iPhone ของคุณอยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย จะไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนเหล่านี้เพิ่มเติม และคุณสามารถใช้รหัสของ iPhone ได้ตามปกติ ซึ่งสถานที่ที่คุ้นเคยนั้นโดยทั่วไป ได้แก่ บ้าน ที่ทำงาน และสถานที่อื่นๆ ที่คุณใช้โทรศัพท์เป็นประจำ
หากต้องการ คุณสามารถตั้งค่าคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยเพื่อกำหนดให้ต้องใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมเหล่านี้เสมอได้ แม้ว่า iPhone ของคุณจะอยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคยก็ตาม
คุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยมีให้ใช้งานใน iOS 17.3 หรือใหม่กว่า และต้องเปิดก่อนที่อุปกรณ์จะสูญหายหรือถูกขโมย
วิธีเปิดหรือปิดคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย
ในการเปิดคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยนั้น คุณต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์สองปัจจัยสำหรับบัญชี Apple และตั้งค่าหรือเปิดใช้งานสิ่งต่อไปนี้บน iPhone ของคุณ ได้แก่ รหัสอุปกรณ์, Face ID หรือ Touch ID และตำแหน่งที่ตั้งสำคัญ* (บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง)
คุณต้องเปิด "ค้นหาของฉัน" ด้วย ซึ่งจะไม่สามารถปิดได้ในขณะที่คุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยเปิดอยู่
คุณสามารถเปิดคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยได้ในการตั้งค่าโดยทำดังนี้
- ไปที่การตั้งค่า จากนั้นแตะ Face ID และรหัส 
- ป้อนรหัสของอุปกรณ์ 
- แตะ "ปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย" จากนั้นเปิดหรือปิด "ปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย" 
เมื่อคุณกู้คืนจากข้อมูลสำรอง iCloud หรือโอนโดยตรงจาก iPhone เครื่องเก่าไปยังเครื่องใหม่ การตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณ รวมถึงการปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย จะกู้คืนเช่นกัน มาตรการรักษาความปลอดภัยของคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยจะกลับมาทำงานบน iPhone เครื่องใหม่โดยอัตโนมัติ แม้ว่าอาจเกิดความล่าช้าเล็กน้อยก่อนที่อุปกรณ์ของคุณจะจดจำตำแหน่งที่คุ้นเคยได้
ต้องการมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมตลอดเวลา
ตามค่าเริ่มต้นแล้ว มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมของคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยจะจำเป็นก็ต่อเมื่อ iPhone ของคุณอยู่ห่างจากสถานที่ที่คุ้นเคยเท่านั้น
หากคุณต้องการให้ iPhone ของคุณบังคับใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมของคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน คุณสามารถปรับการตั้งค่าได้
- ไปที่การตั้งค่า > Face ID (หรือ Touch ID) และรหัส > ปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย แล้วเลือก "ตลอดเวลา" ภายใต้ "ต้องรอเวลาเพื่อความปลอดภัย" 
- เมื่อคุณเลือกตัวเลือกนี้ การอัปเดตการตั้งค่าความปลอดภัยบางอย่างจะต้องรอเวลาเสมอ และการดำเนินการที่ต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ทางไบโอเมตริกจะต้องใช้ Face ID หรือ Touch ID เสมอ (โดยไม่สามารถใช้รหัสแทนได้) แม้ว่าคุณจะอยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย เช่น บ้านหรือที่ทำงานก็ตาม 
หากคุณพยายามปิดคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยขณะอยู่ในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย จะต้องมีการรอเวลาเพื่อความปลอดภัยก่อนจึงจะปิดได้ และคุณควรปิดการปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย ก่อนที่คุณจะขาย ยกให้ผู้อื่น หรือนำ iPhone มาแลกรับเป็นเครดิต
คุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมยช่วยปกป้องอุปกรณ์และบัญชีของคุณอย่างไร
เมื่อเปิดคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย การทำงานบางอย่างจะมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมเมื่อ iPhone ของคุณอยู่ห่างจากสถานที่ที่คุ้นเคย เช่น บ้านหรือที่ทำงาน
นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเพิ่มเติมเมื่อดำเนินการบางอย่างบนเว็บหรือบนอุปกรณ์ Apple อื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยปกป้องการตั้งค่าความปลอดภัยที่สำคัญมากอีกชั้น
- คุณไม่สามารถอัปเดตการตั้งค่าความปลอดภัยเหล่านี้บนเว็บที่ account.apple.com 
- คุณอาจต้องรอระยะเวลาหนึ่งก่อนที่คุณจะสามารถอัปเดตการตั้งค่าความปลอดภัยเหล่านี้บนอุปกรณ์ใหม่ได้ 
การยืนยันตัวตนทางไบโอเมตริกด้วย Face ID หรือ Touch ID
เมื่อใช้งานคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย และ iPhone ของคุณไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย คุณจะต้องยืนยันตัวตนด้วย Face ID หรือ Touch ID ก่อนจึงจะดำเนินการบางอย่างได้ ซึ่งรวมถึงการดำเนินการต่อไปนี้
- ใช้รหัสผ่านหรือพาสคีย์ที่บันทึกไว้ในพวงกุญแจ 
- ใช้วิธีการชำระเงินที่บันทึกไว้ใน Safari (ป้อนอัตโนมัติ) 
- ปิดโหมดสูญหาย 
- เปิดแอปที่ล็อคอยู่ 
- ลบข้อมูลและการตั้งค่าทั้งหมด 
- สมัคร Apple Card ใหม่ 
- ดูหมายเลขบัตรเสมือน Apple Card หรือ Apple Cash ของคุณ 
- ดำเนินการบางอย่างกับ Apple Cash และ Savings ในแอปกระเป๋าสตางค์ (เช่น โอนเงินจาก Apple Cash หรือ Savings) 
- ใช้ iPhone ของคุณเพื่อตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่ (เช่น Quick Start) 
- ตั้งค่าหรือถ่ายโอน eSIM 
คุณยังสามารถใช้รหัสของ iPhone เพื่อซื้อสินค้าด้วย Apple Pay ได้
การรอเวลาเพื่อความปลอดภัย
เมื่อเปิดใช้คุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย คุณอาจต้องรอหนึ่งชั่วโมงก่อนใช้ iPhone เพื่อเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าด้านความปลอดภัยที่สำคัญกับบัญชี Apple ของคุณ และหาก iPhone ของคุณไม่ได้อยู่ในสถานที่ที่คุ้นเคย คุณต้องยืนยันตัวตนด้วย Face ID หรือ Touch ID จากนั้นรอจนกว่าการรอเวลาเพื่อความปลอดภัยจะสิ้นสุดลง แล้วจึงยืนยันตัวตนด้วย Face ID หรือ Touch ID อีกครั้งเพื่ออัปเดตการตั้งค่าดังต่อไปนี้
- เปลี่ยนรหัสผ่านบัญชี Apple ของคุณ 
- ลงชื่อออกจากบัญชี Apple ของคุณ 
- อัปเดตการตั้งค่าด้านความปลอดภัยของบัญชี Apple (เช่น เพิ่มหรือลบอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ คีย์การกู้คืน หรือผู้ติดต่อการกู้คืน) 
- เพิ่มหรือลบ Face ID หรือ Touch ID 
- เปลี่ยนรหัสของคุณ 
- รีเซ็ตการตั้งค่าทั้งหมด 
- ลงทะเบียนเข้าร่วมในการจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ 
- ปิดคุณสมบัติปกป้องอุปกรณ์ที่ถูกขโมย 
หากคุณใช้ iPhone เพื่อเปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชี Apple ตำแหน่งของอุปกรณ์อาจไม่แสดงใน icloud.com เป็นระยะเวลาหนึ่ง
การรอเวลาเพื่อความปลอดภัยของ iPhone อาจสิ้นสุดลงก่อนที่กำหนดได้หลังจากตรวจพบว่าคุณมาถึงสถานที่ที่คุ้นเคย
หาก iPhone ของคุณถูกขโมย
*"ตำแหน่งที่ตั้งสำคัญ" เป็นตัวเลือกหนึ่งที่อยู่ในบริการหาตำแหน่งที่ตั้ง: การตั้งค่า > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > บริการหาตำแหน่งที่ตั้ง > บริการระบบ > ตำแหน่งที่ตั้งสำคัญ